ASICS GEL-CUMULUS 13 Running Shoes - 11.5
ASICS Shoes |
||||
ASICS GEL-CUMULUS 13 Running Shoes - 12.5
ASICS Shoes |
||||
ASICS GEL-CUMULUS 13 Running Shoes - 7.5
ASICS Sports & Outdoors |
||||
ASICS GEL-CUMULUS 13 Running Shoes - 7.5
ASICS Sports & Outdoors |
||||
ASICS GEL-TRABUCO 14 STYLE # ASICS-T1D1N-9074 (10 M US)
ASICS Shoes |
||||
Asics Gel-Cumulus GTX - Black Lightning Navy - US 13
ASICS Sports & Outdoors |
Running Shoes,รองเท้าสำหรับรักการวิ่ง
วันอาทิตย์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
ASICS Men's GEL-Cumulus 13 Running Shoe
ASICS Men's Gel-Blur33 Running Shoe
ASICS Men's Gel-Blur33 Running Shoe
[Detail More]
ASICS Men's Gel-Blur33 Running Shoe
ASICS Mens Gel Blur 33 Running Shoes Color: Green/White/Black Size: 9.5
ASICS Shoes |
||||
Womens ASICS GEL-Blur33, Color:Grey/Light Blue, 9.5 B
ASICS Shoes |
||||
Asics gel blur33 fitness lgh/blk/blu 10 m
ASICS Sports & Outdoors |
รองเท้าที่เหมาะสมกับการวิ่งสำหรับคนไทย-Running shoes
รองเท้าที่เหมาะสมกับการวิ่งสำหรับคนไทย
รองเท้าที่สวมใส่สำหรับวิ่งมีความสำคัญมากที่สุดอย่างหนึ่ง ที่จะป้องกันและรักษาการบาดเจ็บจากการวิ่ง จริงอยู่รองเท้าคู่หนึ่ง ขนดหนึ่งไม่ได้เหมาะสำหรับนักวิ่งทุกๆ คน ถึงแม้ความเจริญก้าวหน้าของรองเท้าในปัจจุบันจะได้ออกแบบใหม่ๆ และเนื้อรองเท้า ให้มีความปลอดภัยในการวิ่งมากยิ่งขึ้นไม่ว่าจะเป็นความมั่นคง ความอ่อนนิ่มยืดหยุ่นและการดูดซับแรงกระแทก
ก่อนที่จะไปถึงการเลือกรองเท้าที่สวมใส่ สำหรับวิ่งขอให้นึกถึงว่าเราเป็นคนไทย รูปเท้า ฝ่าเท้าของเราอาจไม่เหมือนชาวต่างชาติ ดังนั้น รองเท้าจากต่างประเทศอาจจะเหมาะหรือไม่เหมาะสำหรับเราก็ได้
จากผลงานวิจัยฝ่าเท้าของคนไทย 2,000 เท้า และนักีฬาไทยทุกระดับความสามารถ ( นักเรียน อุดมศึกษา ทีมชาติ ) โดยข้าพเจ้า ศาสตราจารย์นายแพทย์สิทธิ์ เตชะกัมพุช และอาจารย์ที ดอนโพธิ์งาม พบสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการเลือกรองเท้าสำหรับสวมใส่ดังนี้
1. เกี่ยวกับส่วนนำของเท้า ซึ่งได้แก่ หัวแม่เท้าหรือนิ้วชี้นั้น ผลของการวิจัยบอกได้ว่า พวกที่มีหัวแม่เท้าเป็ฯส่วนนำมีประมาณ 40-50% และพวกที่มีทั้งหัวแม่เท้าและนิ้วชี้เป็นส่วนนำ ( เท่ากัน) มีประมาณ 10-15% ประโยชน์ที่น่าจะได้จากผลการวิจัยนี้ ได้แก่การออกแบบรองเท้า ควรให้มีส่วนนำของรองเท้าค่อนมาทางหัวแม่เท้ามากกว่าที่จะอยู่กลางๆ เพราะจะทำให้เกิดการบีบเบนหัวแม่เท้าไปทางด้านนิ้วก้อย ทำให้เกิดการอักเสบของข้อต่อนิ้วเท้าหรือเกิดการเสื่อมของข้อต่อนิ้วเท้าได้
2. ความยาวของเท้าเป็นประมาณหนึ่งในเจ็ดเท่าของความสูงของบุคคลนั้น กล่าวคือ หากทราบความสูงของบุคคลนั้น ก็สามารถทราบความยาวของฝ่าเท้าได้ทันที
3. ในขณะยืนรับน้ำหนักตัวเต็มที่นั้น นิ้วก้อยไม่สัมผัสกับพื้นถึงร้อยละ 20-30% ซึ่งแสดงว่านิ้วก้อยมิได้ทำหน้าที่เกี่ยวกับการยืนรับน้ำหนักอย่างนิ้วอื่น ๆ ของเท้าจำนวนไม่น้อย
4. ส่วนกว้างสุดของรอยฝ่าเท้าตามแนวเฉียงระหว่างนิ้วหัวแม่เท้ากับนิ้วก้อย กับส่วนกว้างสุดบริเวณส้นเท้า มีอัตราส่วนประมาณ 1.8 : 1 ความสัพันธ์อันนี้ น่าจะนำมาเป็นประโยชน์ในการออกแบบรองเท้ากล่าวคือ ควรให้มีความกว้างสุดตามแนวเฉียงระหว่างนิ้วหัวแม่เท้ากับนิ้วก้อยมีความกว้าง 1.8 เท่า ของความกว้างสุดของส้นเท้า ทั้งนี้เพื่อหลีกเลี่ยงการบีบคับฝ่าเท้า โดยเฉพาะขณะเดินหรือวิ่ง
5.ไม่มีความสัมพันธ์ระหว่างส่วนสูงของความโค้งของฝ่าเท้ากับน้ำหนักตัวของผู้นั้น ฉะนั้น ความเชื่อที่ว่าคนอ้วนมักมีอุ้งฝ่าเท้าแบนนั้น จึงไม่เป็นจริงเสมอไป
เมื่อได้ทราบอาจเป็นแนวทางสำหรับคนไทยเราเแล้ว
รองเท้าวิ่งที่ดีควรมีลักษณะดังนี้
1.ความพอดี ( ฟิต)
เป็นสิ่งสำคัญสิ่งแรกที่สุดที่ต้องเลือกสวมรองเท้าที่พอดีไม่แคบ ไม่บีบรัดส่วนใดของเท้า รองเท้าที่ผิดๆ มักจะยาวและแคบทำให้บีบรัดส่วนกว้างที่สุดของฝ่าเท้าและเกิดการบาดเจ็บจากการวิ่งได้
2. เชือกรัดรองเท้า
ควรอยู่ตรงกลางและปล่อยส่วนปลายเท้าให้ว่างเว้นไว้จะดีกว่า ใช้เชือกรัดรองเท้ายาวจากปลายมาตลอด ถึงแม้จะปรับความพอดีของรองเท้าได้แต่เมื่อวิ่งนานๆ หรือระยะไกล การเสียดสีหรือถูไถของเชือกบริเวณปลายเท้าส่วนที่เขย่งเมื่อวิ่งจะทำให้เกิดผิวหนังพุพองได้
3. ส่วนหุ้มส้นเท้าที่ยกสูงขึ้นมาควรมีหรือไม่
ขณะวิ่งเมื่อเขย่งเท้าโดยข้อเท้ากระดกลงจะทำให้ส่วนที่ยื่นบนหลังส้นเท้านั้นกดที่เอ็นร้อยหวายพอดี วิ่งนานๆ ทำให้เกิดการอักเสบของตัวเอ็นหรือปลอกหุ้มเอ็นของเอ็นร้อยหวายได้ เมื่อมีปัญหาเช่นนี้ให้ตัดออกเสียเลย หรือตลบลงด้านหลังหรือผ่าตัดแยกเสียเลย
4.พื้นส้นเท้า
พื้นส้นเท้าสำหรับนักวิ่งต้องกลม เพราะส้นเท้าเรากลมถ้าไม่ฟิตพอดีทำให้ไม่มีความมั่นคงของส้นเท้า จะเกิดการบาดเจ็บตามมาและเจ็บหลังส้นเท้าควรแข็งและแน่นเพื่อความมั่นคงของส้นเท้าเช่นกัน
5. พื้นรองเท้า
พื้นชั้นในที่รองรับฝ่าเท้า ควรนิ่มและยืดหยุ่น และมีส่วนนูนรับอุ้งเท้าเพื่อให้ฟิตพอดี พื้นด้านนอกแข็งแต่บริเวณกึ่งกลางควรยืดหยุ่นและหักงอได้ และมีที่ยึดเกาะพื้นได้ดี ไม่ราบเรียบจนลื่น
6. พื้นรองเท้าบริเวณส้นเท้าอาจเฉียงขึ้น เพื่อความรวดเร็วในการเคลื่อนไหวก้าวเท้าขณะวิ่ง
7. รองเท้าวิ่งควรมีส้นสูงเล็กน้อย ประมาณ2เซ็นติเมตรทั้งนี้เพื่อแบ่งเบาการทำงานของเอ็นร้อยหวายและกล้ามเนื้อต้นขา
8. วัสดุที่ห่อหุ้มรองเท้า
ไม่ควรแข็ง เพราะจะเกิดการเสียดสี ทำให้ร้อนและผิวหนังพองได้ ไม่ว่าจะเป็นหนัง ผ้าใบ หรือไนล่อน ควรยืดหยุ่น นิ่มและระบายความร้อนได้ดี
9. น้ำหนักรองเท้า
ถ้าหนักก็มีความมั่นคงดี แต่วิ่งได้ช้า ดังนั้น การเลือกใส่ นอกจากความพอใจในน้ำหนักความพอดีแล้ว ถ้าแข่งขันใช้น้ำหนักเบา ก็จะทำให้วิ่งได้เร็วขึ้น
เมื่อใส่วิ่งแล้วควรตรวจดูและซ่อมแซม การชำรุดสึกหรอเพื่อไม่ให้ผิดรูปไป ทำให้เสี่ยงต่อการบาดเจ็บได้ง่าย
( หนังสือบาดเจ็บจากการวิ่ง โดย...รศ.นพ.ธีรวัฒน์ กุลทนันทน์ )
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)